Wednesday, March 25, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 3)


สำหรับ Nissan Cefiro A31 แล้ว ในอดีตสามารถจัดได้ว่าเป็นรถที่อยู่ในระดับ Luxury car เลยก็ว่าได้โดยเฉพาะ Option ต่างๆที่มีให้มานั้น เหนือคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นระบบ Sonar เพื่อปรับรูปแบบการขับขี่แบบอัตโนมัติ ระบบ chock up แบบไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นรถที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานอีกด้วย (เอาไว้ทำดริฟๆๆ)ตอนออกใหม่ๆราคาที่แพงเอาการ จึงไม่สามารถซื้อได้ตอนนี้เป็นรถมือสอง ได้ ด้วยรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย แม้เวลาจะล่วงเลยมา 10 กว่าปี เจ้า A31 ก็ยังดูโฉบเฉี่ยวเสมอครับสำหรับสมรรถนะนั้น ในรุ่น 12V อัตราเร่งจะอืดกว่า 24V อย่างเห็นได้ชัด โดยอัตราการกินน้ำมัน 12V จะบริโภคในเมืองเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 km/L ทางไกล ประมาณ 9-10 km/L ส่วน 24V จะบริโภคในเมืองเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 km/L ทางไกล ประมาณ 10-11 km/L ครับซึ่งถือว่ามากเอาการเหมือนกันสำหรับรถระดับ 2000 CC.สำหรับช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ให้การทรงตัวที่มั่นคงและนุ่มนวลมากครับ ทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ทั้งแบบ Sport หรือ แบบ Comfort ได้โดยตรงอีกด้วยในเรื่องของอะไหล่และศูนย์บริการต้องขอบอกว่า แพงครับ ถ้าเลือกเข้าศูนย์อย่างเดียวกระเป๋าอาจแฟบได้ แต่ถ้าเป็นคนมีความรู้เรื่องรถอยู่บ้าง อะไหล่รถมือสอง ตามเชียงกงมีเพียบครับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าศูนย์มากๆ นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่ชอบ Modify ถ้าคุณเลือก A31 คุณมาถูกทางแล้วครับ เนื่องจากพื้นฐานตัวรถแล้วสามารถใช้อะไหล่ทดแทนจากรถ Sport รุ่นพี่อย่าง Skyline R32-33 ได้เลยไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ หรือช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า A31 อยู่มาก ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่ในปัจจุบันยังสามารถเห็น A31 สวยๆอยู่บนท้องถนนมากมายเลยสรุป ถ้าคุณรับได้กับอัตราการบริโภคน้ำมันที่จัดว่ามากเอาการ ในสภาวะน้ำมันแพงนี้ คุณเล่น A31 ได้เลย โดยราคาตัวรถในปัจจุบันไม่แพงแล้ว ปี 95 ราคาประมาณ 330,000 - 390,000 แล้วแต่สภาพ คุณจะได้รถที่ทนทาน มีอะไหล่(เชียงกง)ให้ใช้ได้อีกหลายปีหากคุณรู้จักเลือกและบำรุงรักษา A31 มันจะอยู่ให้คุณขับอวดสาวให้คนอื่นอิจฉาเล่นอีกนานเลยครับนับเป็นรถมือสองที่น่าจับตามองมากๆครับ
อีกนิดคนที่แต่งรถรุ่นนี้มักจะวางเครื่องใหม่โดยจะไปคบกันเครื่องต่างค่ายอย่าง เครื่อง1J,2J (ขุมพลังแห่งสยามประเทศ) แต่ต้องโมกันเยอะครับแต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับช่างไทยว่าไหมครับ...

No comments:

Post a Comment