Thursday, April 9, 2009

เปลี่ยนหลอดไฟส่องป้ายทะเบียนรับสงกรานต์

เอาละครับพี่น้องเพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ รถมือสองคันงามของเราจะต้องเดินทางไกลๆ ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ ไฟส่องป้ายทะเบียน เป็นอีกจุดหนึ่งที่เสียบ่อย เอามาเริ่มกันเลย (ใช้ได้ทั้งรถมือสองและรถใหม่)
1.เปิดฝากระโปรงท้ายขึ้นมา

2.จัดการถอดเอาหลอดไฟส่องป้ายทะเบียนออกมา(มุดเข้าไปดูจับแล้วบิดจะได้ยินเสียงพลาสติกกรอบแตกเปรี๊ยะๆ)


3.ลองเปิดไฟหรี่ดูจะเห็นว่าหลอดไฟติดทั้งคู่

4.ถอดมันออกมา(ดึงปึ้ดเลยครับ)

5.ด้านซ้าย หลอดใหม่ที่จะใส่ (LED) ด้านขวาหลอดเดิม


6.เสียบหลอดใหม่เข้าไปแทนของเดิม มีสีขาวกะสีฟ้าจำเป็นต้องเลืกสีฟ้าเพราะสีขาวมีหลอดเดียว..อิอิ

7.ดูสิครับสีฟ้าสิงโตน้ำเงินครามเชลซีมาแล้วเอิ้กๆ

8.เอาใส่เข้าที่เดิมแค่นี้ก็พร้อมถูกตำรวจเรียกวันสงกรานต์แล้วครับ...

เสร็จแล้วกลับบ้านสงกรานต์ง่วงอย่าขับนะครับ รักนะ จุ๊บๆ...







































































Tuesday, April 7, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 7)


นี่คือสุดยอดรถมือสองในฝันคันสดท้ายของผมครับ BMW Series 3 รุ่น 318i (1991-2000)คงไม่มีใครเถียงนะครับว่าไม่เท่ สำหรับผมแล้วรถคันนี้เป็นสุดยอดรถในฝันของผมเลยทีเดียวครับเนื่องจากเป็นรถที่ นำเข้าทั้งคัน จึงมีราคาแพงมาก ผู้ใช้นี้ก็ออกแนวรถหรูมีระดับ ภายในหรูกว้างสะดวกสบาย มีวิทยุ, เทป, ล้อแมกซ์, CD, เบรค ABS, AIRBAG คู่ , พวงมาลัยพาวเวอร์, กระจกไฟฟ้า, เซ็นทรัลล็อก, เบาะหนัง, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า,ไฟขาว,ภายในตกแต่งลายไม้ เครื่องยนต์ให้กำลังแรง ตามตำราว่าไว้ว่า บีเอ็มแท้ต้องเหลือง หมายถึงรถมือสอง BMW ที่ผ่านการใช้งานมานานสีที่เคลือบเครื่องยนต์อยู่จะค่อยจางไปเหลือให้เห็นสีเคลือบชั้นในที่เป็นสีทองเหลืองอร่ามไปทั้งห้องเครื่อง จึงจะถือว่าเป็นของแท้ จำไว้นะครับว่าบีเอ็มแท้ต้องเหลือง
สำหรับราคาของเจ้ารถมือสองคันนี้ก็อยู่ที่ 350000-400000 บาท ตามสภาพครับผม
สำหรับตำนาน 7 สุดยอดรถมือสองในฝันของผมก็จบลงด้วยประการนี้ครับผม...

Thursday, April 2, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 6)


นี่คือสุดยอดรถมือสองอีกคันที่น่าสนใจครับ มาเป็นรถยุโรปกันบ้าง VOLVO 740 (1988-1991) เป็นสุดยอดรถมือสองในฝันของผมอีกคันนึงครับด้วยรูปลักษณ์ที่ดูแข็งแรงบึกบึน มีเหลี่ยมมุมแปลกๆไม่ซ้ำใครนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของ VOLVO มาพร้อมกับสมรถนะอันดีเยี่ยมและการบริโภคน้ำมันที่เยี่ยมยอดทำให้เจ้าของผู้ครอบครองหลายคนถึงกับต้องวางเครื่องใหม่กันเลยทีเดียวครับ มาดูกันเลยครับเจ้ารถรุ้นนี้เครื่องยนต์ 2.3 GL ระบบไฟฟ้าทั้งคัน ตั้งแต่กระจกจนถึงปรับเบาะด้านคนขับ ภายในเบาะหนังแท้หรูหราสไตล์รถยุโรป มาตรวัดต่างๆตัวใหญ่อ่านง่าย ช่วงล่างระบบแม็กเฟอร์สันอิระ 4 ล้อ ให้ความนุ่มหนึบดีมาก อย่างว่าครับรถรุ่นนี้กินน้ำมันมากไม่เหมาะกับบ้านเราสักเท่าไร หลายคนจึงเปลี่ยนไปลงเครื่อง J จอง TOYOTA ซะเลยด้วยเหตุที่รถนี้ตอนซื้อราคาแพงมากเพราะเป็นรถนำเข้าเมื่อเป็นรถมือสองกลับมาราคาที่ถูกมากครับ อะไหล่ค่อนข้างหายากต้องไปดูแถวเซียงกงวรจักรก็มีไม่กี่ร้านถ้าใครพอรู้เรื่องซ่อมเปลี่ยนอะไหล่บ้างหามาใช้สักคันสิครับโดยส่วนตัวผมคิดว่าเป็นรถที่น่าคบอีกคันหนึ่งครับ สนนราคา 100000-140000 บาทตามสภาพขอรับ
ขอขอบคุณภาพจาก thaicar.com ครับ

Tuesday, March 31, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 5)


คันที่ 5 Honda CIVIC 3 Door (1992-1995) นี่ก็เป็นรถมือสองที่ดูสวยดูดีตลอดกาลอีกคันนึงครับเป็นรถขนาดเล็กที่ใช้แล้วติดใจประหยัดน้ำมันดี ด้วยเครื่องคาร์บิว ขนาด 1500 CC. โดยส่วนตัวแล้วรถรุ่นนี้ถือเป็นรถครูของผมเลยครับเพราะมีรถรุ่นนี้อยู่มี่อ็อฟฟิสคันนึงจำได้ว่าผมเข้ากรุงเทพฯมาได้ 3 วัน ขับรถก็ยังไม่แข็งไปสระบุรีกับเจ้านายขากลับแกเมาเละเทะผมต้องขับกลับกรุงเทพขาสั่นไปไปหมด...เอ้ามาดูกันต่อตามที่บอกไปแล้วรถรุ่นนี้ให้เครื่องคาร์บิวสำหรับกียร์ธรรมดา และเครื่องหัวฉีดสำหรับเกียร์ออโต้ กระจกไฟฟ้าในรุ่น 3 ประตูนี้ภายนอกอาจดูเหมือนแคบแต่จริงๆแล้วภายในนั่งกันสบายๆ 4 คน เบาหนังเทียมพวงมาลัยสามก้าน ช่างล่างแบบปีกนก ขับเคลื่อนล้อหน้า แรงจัดจ้านใช้ได้ขับในเมืองยูเทิร์นง่ายเหมาะกับคุณผู้หญิงและวัยรุ่นเป็นที่สุดรถรุ่นนี้วัยรุ่นหนุ่มสาวมหาวิทยาลัยนิยมนิมาแต่ง โหลดเตี้ย ใส่เสกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลัง ทำสีใหม่ ประมาณ แดง เขียว เหลือง ชมพูดูแล้วแนวสุดๆไม่แพ้รถรุ่นหลานอย่างฮอนด้าแจ้ส...

สนนราคาตอนนี้ที่กลายเป็รถมือสองแล้วก็ 180000-200000 บาท ตามสภาพครับผม
ปล.รถคันนี้ที่อ็อฟฟิสตอนนี้ได้ทำการจอดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากประสบอุบัติเหตุซ่อมไม่ได้

Saturday, March 28, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 4)


สำหรับนี่ก็เป็นรถมือสองอีก 1 คันในดวงใจของผมครับ TOYOTA VIOS นับว่าเป็นรถรุ่นหลังๆที่อยู่ในคอลเลคชั่นรถในฝันของผมเลือกอยู่นานครับ เพราะค่าย TOYOTA มีรถในตำนานเยอะแต่ก็มาลงตัวที่คันนี้ครับรถรุ่นนี้ฮิตมาในหมู่วัยรุ่นและคนทำงาน ยอดหายเป็นอันดับ 1 (ที่ประเทศเพื่อนบ้านต้องการ)
ภายในผมชอบตรงที่หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอลครับได้ฟิวส์ความทันสมัยมากๆ(แต่ตัวใหม่ออกมาเป็นแบบเข็มอ่ะเซ็งเลย) เบาะภายในกว้างขวางนั่ง 5 คนสบายๆ มีเซ็นทรัลล็อก กระจกไฟฟ้า ฯ
โดยส่วนตัวผมแล้วผมเห็นรถรุ่นนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 10 กว่าปี เจ้า VIOS ตัวนี้ผมคิดว่าสวยกว่าตัวล่าสุดที่ออกด้วยซ้ำไปครับสำหรับสมรรถนะ ในบริโภคในเมืองเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10 km/L ทางไกล ประมาณ 13-15 km/L ส่วน 24V จะ ซึ่งถือว่าประหยัดมากในรถ 1500 CC.สำหรับช่วงล่างเป็นแบบคานแข็งตามสไตล์โตโยต้า ให้การทรงตัวที่มั่นคงและนุ่มนวล ทั้งยังสามารถเลือกในเรื่องของอะไหล่และศูนย์บริการต้องขอบอกว่า รถมือสองโตโยต้าถูกครับ มีทั้งแท้ เทียบ เทียม แต่ถ้าเลือกเข้าศูนย์อย่างเดียวกระเป๋าอาจแฟบได้ แต่ถ้าเป็นคนมีความรู้เรื่องรถอยู่บ้าง อะไหล่มือ2 ตามเชียงกงมีเพียบครับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าศูนย์มากๆ นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวไม่ต้องโมอะไรกันมากมายครับรุ่นนี้เนื่องจากว่าเป็นรถมือสองที่ค่อนข้างใหม่เรื่องของการผุ หรือเครื่องยนต์หลวมนั้นมีน้อย จะต้องระวังก็แต่การเลือกซื้อครับอาจโดนคันที่เคยชนมาจนพังยับสรุป ถ้าคุณรับได้กับอัตราการบริโภคน้ำมันประหยัดพอสมควร ในสภาวะน้ำมันยังพอรับได้แพงนี้ คุณเล่น วีออส ได้เลยหากพอมีเงินเก็บ โดยราคาตัวรถในปัจจุบันไม่แพงแล้ว ปี 2000 ราคาประมาณ 400,000 - 450,000 แล้วแต่สภาพ ด้วยความที่รถค่อนข้างใหม่ยังใช้ได้อีกนานครับ

Wednesday, March 25, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 3)


สำหรับ Nissan Cefiro A31 แล้ว ในอดีตสามารถจัดได้ว่าเป็นรถที่อยู่ในระดับ Luxury car เลยก็ว่าได้โดยเฉพาะ Option ต่างๆที่มีให้มานั้น เหนือคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นระบบ Sonar เพื่อปรับรูปแบบการขับขี่แบบอัตโนมัติ ระบบ chock up แบบไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นรถที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานอีกด้วย (เอาไว้ทำดริฟๆๆ)ตอนออกใหม่ๆราคาที่แพงเอาการ จึงไม่สามารถซื้อได้ตอนนี้เป็นรถมือสอง ได้ ด้วยรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย แม้เวลาจะล่วงเลยมา 10 กว่าปี เจ้า A31 ก็ยังดูโฉบเฉี่ยวเสมอครับสำหรับสมรรถนะนั้น ในรุ่น 12V อัตราเร่งจะอืดกว่า 24V อย่างเห็นได้ชัด โดยอัตราการกินน้ำมัน 12V จะบริโภคในเมืองเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 km/L ทางไกล ประมาณ 9-10 km/L ส่วน 24V จะบริโภคในเมืองเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 km/L ทางไกล ประมาณ 10-11 km/L ครับซึ่งถือว่ามากเอาการเหมือนกันสำหรับรถระดับ 2000 CC.สำหรับช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ให้การทรงตัวที่มั่นคงและนุ่มนวลมากครับ ทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ทั้งแบบ Sport หรือ แบบ Comfort ได้โดยตรงอีกด้วยในเรื่องของอะไหล่และศูนย์บริการต้องขอบอกว่า แพงครับ ถ้าเลือกเข้าศูนย์อย่างเดียวกระเป๋าอาจแฟบได้ แต่ถ้าเป็นคนมีความรู้เรื่องรถอยู่บ้าง อะไหล่รถมือสอง ตามเชียงกงมีเพียบครับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าศูนย์มากๆ นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่ชอบ Modify ถ้าคุณเลือก A31 คุณมาถูกทางแล้วครับ เนื่องจากพื้นฐานตัวรถแล้วสามารถใช้อะไหล่ทดแทนจากรถ Sport รุ่นพี่อย่าง Skyline R32-33 ได้เลยไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ หรือช่วงล่างที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า A31 อยู่มาก ผมจึงไม่แปลกใจเลยที่ในปัจจุบันยังสามารถเห็น A31 สวยๆอยู่บนท้องถนนมากมายเลยสรุป ถ้าคุณรับได้กับอัตราการบริโภคน้ำมันที่จัดว่ามากเอาการ ในสภาวะน้ำมันแพงนี้ คุณเล่น A31 ได้เลย โดยราคาตัวรถในปัจจุบันไม่แพงแล้ว ปี 95 ราคาประมาณ 330,000 - 390,000 แล้วแต่สภาพ คุณจะได้รถที่ทนทาน มีอะไหล่(เชียงกง)ให้ใช้ได้อีกหลายปีหากคุณรู้จักเลือกและบำรุงรักษา A31 มันจะอยู่ให้คุณขับอวดสาวให้คนอื่นอิจฉาเล่นอีกนานเลยครับนับเป็นรถมือสองที่น่าจับตามองมากๆครับ
อีกนิดคนที่แต่งรถรุ่นนี้มักจะวางเครื่องใหม่โดยจะไปคบกันเครื่องต่างค่ายอย่าง เครื่อง1J,2J (ขุมพลังแห่งสยามประเทศ) แต่ต้องโมกันเยอะครับแต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับช่างไทยว่าไหมครับ...

7 รถในฝันของผม (คันที่ 2)


สุดยอดรถมือสองในฝันอีกคันเป็นรถที่ผมเห็นแล้วรักเลยแต่...ซื้อไม่ได้เพราะไม่มีเงินเขาคือ Mazda LANTIS 1994-1998

ด้วยรูปลักษณ์ที่งามสง่าดูล้ำยุคโค้งมนทำให้มองแล้วนึกถึงอนาคตจริงๆเป็นรถที่มีเอกลักษณ์จริงๆครับผมทดลองขับดูแล้วนิ่มมากๆ ไม่ต้องแต่งเสริมอะไรเดิมๆก็สวยครับ แต่ตามตลาดเต้นท์รถมือสองไม่ค่อยมีให้ซื้อมากนักคงเป็นเพราะตอนที่ออกมาใหม่มีราคาแพงมากเครื่องยนต์ก็ 1.8-2.0 ใหญ่กินน้ำมันพอสมควร

สมรถนะดีออกแนวสปอร์ตห้องโดยสารกว้างขวางโอ่โถง ระบบช่วงล่างหนึบดี โดยรวมแล้วเป็นรถที่น่าใช้เป็นอย่างยิ่งแต่ส่วนที่ผมชอบที่สุดคือประตูรถที่ไม่มีกรอบกระจกดีไซน์ออกมาได้สวยมากๆ สนนราคา 180000-250000 บาท

ขอบคุณภาพจาก car.narak.com

Tuesday, March 24, 2009

7 รถในฝันของผม (คันที่ 1)


เล่าเรื่องการดูแลรถมือสองมาเยอะแล้วคราวนี้มาเล่าเรื่องความฝันของผมกันบ้างครับผมฝันไว้ว่าสักวันนึงจะต้องมีรถ ทั้งเจ็ดคันนี้เอาไว้ขับวันละคันให้ได้เลยครับมาเริ่มกันเลยดีกว่า....

Mitsubishi LANCER (E-car) 1992-1995 อันนี้ความฝันเป็นความความจริงแล้วครับผมครอบครองรถนี้ได้เป็นเวลา 1 ปีแล้วรถโฉมนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคที่ประเทศเราเศรษฐกิจช่วงนั้นกำลังดีมากๆจึงเป็นรถยอดนิยมยอดขายพุ่งกระฉูด มีทั้งตัวใน ตัวนอกนำเข้า เครื่อง 4G15 -4G92 1500CC.-1800CC. ตามตำราที่ผู้รู้วิจารณ์ไว้ว่าเป็นรถขนาดกลางๆ นั่งได้ 4 คนพอดีๆระบบเซ็นทรัลล็อก พวงมาลัยเพาเวอร์สามก้าน เบาะผ้ากำมะหยี่สีเทา กระจกไฟฟ้า เบาะหลังมีพนักพิงแขน เหมือนรถขนาดใหญ่ ล้อแม็กสามก้านจากโรงงาน เครื่องยนต์ขนาดพอดี วิ่งในเมือง 8-13 กม/ลิตร ช่วงล่างเดิมๆไว้ใจได้ในความเร็ว 120 กม./ชม. อะไหล่มีทั้งแท้เทียมมีให้ใช้กันได้อีกเป็น 10 ปีการดูและรักษาไม่ยากไม่จุกจิก แต่ข้อเสียที่พบคือหลังคาผุ และกระจกไฟฟ้าเสีย

โดยรวมแล้วเป็นรถมือสองที่น่าใช้มากๆคันนึงครับ(ผมใช้อยู่) ซ่อมง่ายอะไหล่ไม่แพงเป็นที่รู้จักและก็ไม่เชยดูแล้วไม่เก่าคบได้ในราคาตั้งแต่ประมาณ 100000-150000 บาทครับ
อ้อ ปล.ต่ออีกนิด รถรุ่นนี้ชาวอีคาร์มักจะนิยมนำมาแต่งเป็น EVOLUTION ซึ่งเป็นรถที่ใช้พื้นฐานการสร้างแบบเดียวกันจึงนำเครื่องของอีโวลูชั่นมาวางได้แบบเป๊ะๆของแต่งก็มีเพียบตามความสมัครใจและเงินในกระเป๋าครับ

Monday, March 23, 2009

มีน้ำรั่วเข้าฝากระโปรงท้าย




เพื่อเพื่อนๆมีรถมือสองกันมาแล้ว เอามาใช้งานสักระยะให้ดูการเปลี่ยนแปลงต่างๆนะครับ ยกตัวอย่างรถผมนี้ 2 อาทิตย์ผ่านไปเปิดฝากระโปรงหลังดูตรงที่เก็บอะไหล่ โอ้โหน้ำนี้นองเต็มเลยครับก็เลยมาดูสาเหตุ


อ๋อเกิดจากยางขอบฝากระโปรงมันขาด จนเหี่ยวแฟบครับผมก็เลยจัดการเปลี่ยนใหม่ซะ โดยไปซื้อที่ตลาดพูนทรัพย์(แถวๆทางไปปทุม)เขาขายทุกอย่างเกี่ยวกับรถ ขายเมตรละ 80 บาท รถผมใช้ 3 เมตร พอเปลี่ยนเสร็จแล้วลองฉีดน้ำใส่ดูก็ไม่รั่วแล้วครับ อ้ออีกนิดมีรถพี่ที่อ็อฟฟิสเขาก็รั่วเหมือนกันแต่ไม่ได้เป็นที่ขอบยางครับรถเขาน่าจะรั่วตรงตะเข็บรอยเชื่อมฝากระโปรงหลังถามได้ความว่าเคยถูกชนท้ายมาแล้วเวลาซ่อมช่างเก็บรอยเชื่อมไม่ดีผมเลยแนะนำให้เอาซีลีโคนกันน้ำมายิงไว้แล้วหาเวลาไปเชื่อมรอยตะเข็บใหม่


เพื่อนๆที่น้ำเข้าฝากระโปรงหลังลองทำดูกันนะครับ

Friday, March 20, 2009

ใบปัดน้ำฝนเปลี่ยนหรือยัง




เรื่องของใบปัดน้ำฝน ครับพอดีรถผม(อีกแล้ว) มันเสื่อมสภาพขนาดขาดเป็นริ้วๆใช้การไม่ได้ก็เลยไปซื้อใหม่มาใส่ครับทีนี้ตามตำราว่าไว้ว่าใบปัดน้ำฝนมี 2 แบบ


1.แบบมีโครง คือแบบทั่วไปครับมีความยาวตั้งแต่ 14"-22"


2.แบบไร้โครง คือจะเป็นแบบยางแข็งเลยครับ


สนนราคาก็ 79-500 บาทก็มีตามยี่ห้อและกำลังทรัพย์


ตัวการที่ทำให้ใบปัดของเราเสื่อมเร็วก็คือ ความร้อนจากแสงแดดครับถ้าเราต้องจอดรถตากแดดทิ้งไว้นานๆก็ควรยกใบปัดน้ำฝนขึ้นครับ

Wednesday, March 18, 2009

รถมีกลิ่น

เอาหละครับเมื่อรถคันโปรดของเรามีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ควรทำอย่างไรบ้าง
1.หาสาเหตุก่อนครับว่ากลิ่นมาจากไหน ดูที่คอนโซลตรงที่เปิด-ปิดให้อากาศเข้าได้ว่าเผลอเปิดไว้หรือเปล่าบางทีมืออาจไปโดนปุ่มเปิดแล้วอากาศภายนอกเข้ามาทำให้มีกลิ่นได้ให้ดูตรงนี้ก่อนครับ
2.ภายในตัวรถมีรอยรั่วหรือไม่บางทีอาจเกิดจากมีสัตว์อื่นเข้าไปอยู่แล้วเกิดกลิ่นขึ้นมา
3.กลิ่นจากการสูบบุหรี่ อาหาร หรือเหล้าหกใส่รถ
4.ความชื้นตามรอยต่อต่างๆ
วิธีแก้เบื้องต้น นำรถไปจอดตากแดดแล้วเปิดประตูทุกบานทิ้งไว้ สัก 2-3 ชั่วโมง
ถ้าไม่หายห็นำรถเข้าไปล้างดูดฝุ่นซักเบาะชุดใหญ่เลยครับ
ใกล้ถึงหน้าฝนแล้วดูแลรถให้เป็นพิเศษนะครับรถของเราจะได้ไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

Tuesday, March 17, 2009

วิธีการดูรถที่ทำสีมา


เพื่อนๆที่จะซื้อรถมือสองแต่ยังดูสีรถไม่เป็นมีวิธีดังต่อไปนี้ครับ

1.ให้ไปดูรถในเวลากลางวันที่มีแสงสว่างที่เพียงพอนะครับอาจเป็นตอนสายๆ หรือบ่ายแก่ๆแต่ไม่ต้องดูกลางแดดนะครับ ดูให้ทั่วทั้งคันว่าสีมีความสม่ำเสมอกันไหม ฝากระโปรงรถกับตัวถัง สีเหมือนกันหรือไม่เดินดูให้รอบคันเลยครับ รอยขีดข่วนมีไหม มีรอยตรงไหนก็ถามเจ้าของเขาเลยว่าไปโดนอะไรมาถ้านิดหน่อยตามแก้มกันชนไม่เป็นไรเกิดจากการใช้งาน

2.ลองใช้มือเคาะดู(ใช้มะเหงก...)ฟังเสียงดูนะครับว่าดังอย่างไรถ้าดังป๊องๆ ใสๆ แสดงว่ายังไม่เคยทำสีมาครับ แต่ถ้าดังปุๆละก็ผ่านการทำสีมาแล้วครับ แต่ก็ใช้วิธีนี้ไม่ได้กับพวกรถยุโรปราคาแพงนะครับเพราะรถพวกนั้นมักจะมีฉนวนอยู่ด้านในทำให้เวลาเคาะแล้วดังปุๆ ก็ให้ไปดูส่วนอื่นแทนครับ

3.ก้มลงดูตามซุ้มขอบล้อและเปิดประตูออกมาดูบริเวณหัวน็อตที่ยึดประตูกับตัวถังครับถ้ายังไม่มีรอยอะไรก็แปลว่ายังไม่มีการซอ่มอะไรแต่ถ้ามันมีรอยเหมือนโดนถอดละก็เคยซ่อมมาแน่ครับ

แถมกันอีกนิดไหนๆก็ดูสีรถแล้วดูโคมไฟหน้ารถด้วยครับดูความ เก่า ใหม่ เท่ากันไหม ซีด เหลือง ใส

ตามปกติแล้วจะต้องใสเท่าๆกันนะครับ แต่ถ้าใสแบบปิ้งๆเลยละก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าโดนชนมาจะต้องเปลี่ยนโคมหน้าทั้งสองโคมครับแต่อย่าเพิ่งตกใจมองหน้าคนขายแล้วถามเขาว่าทำไมถึงเปลี่ยนโคมมาเขาก็บอกเองครับ

Tuesday, March 10, 2009

ต่อทะเบียนและเสียภาษีประจำปี

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเพื่อนที่เข้ามดูกันนะครับพอดีวันนี้ได้รับจดหมายจากทางไฟแนนซ์รถยนต์ให้ไปต่อทะเบียนประจำปีประมาณพันกว่าบาท ครับ แล้วก็มีต่อพรบ.ประมาณหกร้อยกว่าบาทด้วยผมปรึกษากับพี่ที่อ็ออฟฟิสเลยว่าทำพรบที่อื่นได้ไหมเขาบอกว่าได้ก็เลยให้เจ้แกจัดพรบ และประกันชั้น3ให้เลย (2000กว่าบาท)เลยหมดเรื่องไปครับปีนี้หมดเงินไป3000กว่าบาท แย่จัง...ไม่เป็นไรไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องกลัวโดนพี่ตรวจเรียกเดือนหน้าเมษายนกลับบ้านต่างจังหวัดขับรถระวังด้วยนะครับ

Monday, March 2, 2009

ขนาดเครื่องยนต์

เรื่องของขนาดเครื่องยนต์อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะครับ
รถเก๋งเครื่องยนต์ทั่วไปไม่ว่าค่ายไหนมีตั้งแต่ 1400 cc. ไปจนถึง 3000 cc.กันเลยครับยิ่งเครื่องใหญเท่าไรก็ยิ่งแรงและขับสนุกมากขึ้นเท่านั้นแต่ว่ายิ่งแรงก็ยิ่งเปลืองน้ำมันมากครับถ้าใช้รถในเมืองต้องเบรกและขับช้าหยุดบ่อยใช้รถเครื่อง 1500-1600 cc.ก็พอครับประหยัดดีแต่ถ้ามีเงินเหลือเติมน้ำมันก็ 1800-2000 cc.เลยครับ
มารถกระบะกันบ้างช่วงนี้การแข่งขันสูงเดิมเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องดีเซลล์ ขนาด 2500 cc. แต่เดี่ยวนี้แต่ละค่ายนิยมส่งเครื่อง 3000 cc. ออกมาครับแรงจัดกินน้ำมันเยี่ยมครับ
จะใช้แบบไหนเพื่อนๆก็เลือกกันได้ครับถ้าสงสัยอะไรก็ถามเข้าเลยครับ

Tuesday, February 24, 2009

ซื้อรถมือสองมาแล้วต้องทำไงบ้าง(1)

หลังจากที่เรายืมตังชาวบ้านมาได้และก็สอยรถมือสองคันงามมาแล้วนะครับในกรณีที่เป็นรถบ้านอันนี้ก็ถามเจ้าของเดิมเค้าเลยครับว่าได้ทำการเปลี่ยนถ่ายของเหลวอะไรไปบ้างแล้วอันนี้ง่ายครับเขายังไม่เปี่ยนอะไรก็เปลี่ยนซะ แต่ถ้าซื้อมาจากเต้นไม่มีทางรู้หรอกครับว่ามันทำอะไรมาบ้างแล้ว เราก็ต้องไล่ทำทุกอันดังต่อไปนี้ครับ
1.ถ่ายน้ำมันเครื่อง
2.ถ่ายน้ำมันเกียร
3.น้ำมันเบรก
4.น้ำมันเฟืองท้าย(รถกระบะ)
5.น้ำมันเพาเวอร์
6.ถ้าเงินเหลือถ่ายน้ำในหม้อน้ำด้วครับ (ค่าใช้จ่ายประมาณ 400-600 บาท)
7.เติมน้ำในกระป๋องที่ปัดน้ำฝน
8.ดูน้ำยาแอร์ด้วยว่ามีหรือเปล่า
9.เติมน้ำกลั่นในแบตเตอร์รี่
10.ของสิ้นเปลืองเช่นหัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่มีโฆษณาตามห้างทั่งไปเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเพราะในใน้มันเครื่องมีสารหล่อลื่นต่างๆอยูครบถ้วนแล้ว
เสร็จแล้วก็เอารถไปล้าง อัด ฉีด ให้เรียบร้อยนะครับ ล้าง อัด ฉีด แรงๆไปเลยจะได้รู้ว่ามีชิ้นส่วนไหนจับยึดไม่แข็งแรงบ้างจะได้แก้ไขต่อไป

Monday, February 23, 2009

พรบ.และประกันภัย

หลังจากมีเงินสอยรถคันงามมาได้แล้วครับคุณจะต้องมีเอกสารต่างๆติดรถดังต่อไปนี้
1.พรบ.หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ รถทุกคันจะต้องทำอันนี้ครับไม่งั้นต่อทะเบียนไม่ได้นะ
2.ประกันภัย อันนี้ภาคสมัครใจครับจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ผมว่าทำไว้เถอะครับ แบ่งเป็นหลายประเภทครับมีขายหลายที่หลายยี่ห้อเลือกดีๆล่ะตอนนี้มันมี ชั้น 1 2 3 3+ และอื่นๆ ผมว่าทำ 3+ แหละครับประมาณ 6-7พันบาท
3.คู่มือจดทะเบียนรถ หรือสำเนาจดทะเบียนรถหน้าล่าสุด
ต้องมีตจิดรถไว้นะครับถ้าเผื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้าขอค้นก็เอาให้เค้าดูเลยป้ายวงกลมต้างๆติดไว้ที่กระจกรถให้เห็นชัดเจนด้วยนะครับไม่งั้นอาจโดนจับจะหาว่าหล่อไม่เตือน

จะมีรถต้องทำไงหว่า???

ในประเทศนี้ครับถ้าคุณมีเงินเหลือเก็บแล้วต้องการรถสักคันไว้รับหญิงละก็ต้องมีอะไรบ้าง...เอ้าลองดูนะ
1.เงิน ถ้ามีเยอะก็จ่ายสด แต่ถ้ามีน้อยผ่อนก็ได้ ถ้าจะเอารถใหม่ ก็อย่างน้อยๆนะเท่าที่ศึกษามาประมาณ 100,000 – 150,000 บาท ถ้ามือสองก็ 35,000-50,000 บาท อันนี้อย่างน้อยนะแต่ถ้าพ่อรวยหรือมีเสี่ยเลี้ยงละก็ยิ่งมากยิ่งดี
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3.สำเนาทะเบียนบ้าน
4.สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน (อะไรกันนักหนาน้อ)
5.ใบรับรองเงินเดือน (อันนี้ชาวบ้านร้านตลาด หาบเร่ แผงลอย ไม่ต้องค้อนผมครับบอกเขาว่าไม่มี แต่ก็ต้องจ่ายดาวน์เยอะหน่อย)
6.คนค้ำประกัน (ถ้าดาวน์เยอะไม่ต้องมีก็ได้)
7.ไปหาพระหรือหมอดูว่าเราเกิดวันอะไร ออกรถสีนี้ถูโฉลกไหมออกวันไหน
8.เงินจองประมาณ 5,000 บาท (จะเอาไปหักจากส่วนที่กู้ไฟแนนส์)
ได้เอกสารครบแล้วก็ยื่นให้เซลล์สาวแสนสวยครับ เซลล์นี้สำคัญนะครับ เพราะถ้ารถเราเป็นอะไรมีปัญหาอะไรก็ติดต่อคนนี้เลยครับ เขาจะต้องรับเลี้ยง เอ้ย รับผิดชอบเรา
หลังจากนั้น 2-3 วันเค้าก็จะมาหาเราในกรณีที่ไฟแนนท์ (กู้ผ่าน) แล้วก็นัดวันไปรับรถได้เลยครับ